ประเทศไทย
ประสบปัญหาความขัดแย้งในหลายๆ พื้นที่ ซึ่งนับวันจะขยายเพิ่มมากขึ้น
ในช่วงวันและเวลาต่าง ๆ กัน หากเราพิจารณาพัฒนาการทางด้านสถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้
รัฐบาลไทยต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินนโยบายการปกครองของรัฐ
ซึ่งปัจจัยพื้นฐานที่ก่อให้เกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ศาสนา ภาษา
วัฒนธรรม การศึกษา เศรษฐกิจ และที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ประชาชนในพื้นที่มีความรู้สึกเป็นพวกเดียวกับมาเลเซีย
และมีความคิดแปลกแยกจากรัฐ ซึ่งทำให้บางครั้งมีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับ จนท.ของรัฐ
อันซึ่งนำมาถึงการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ เมื่อใดมีความขัดแย้งเกิดขึ้น
ก็มีความเป็นไปได้ที่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงนำไปสู่ความรุนแรง
ซึ่งวิธีที่จะนำความขัดแย้งเป็นเรื่องดี หรือด้านบวกนั้น
ต้องมีการจัดการความขัดแย้งด้วยวิธีการที่ปราศจากความรุนแรง
นั้นก็คือการเจรจาหรือพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจ
และจะนำไปสู่สันติสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ในห้วงที่ผ่านในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาก็มาก
การใช้กำลังเข้าต่อสู้กันโดยไม่รู้ที่มาที่ไปหรือสาเหตุที่แท้จริงก็มีหลายเหตุการณ์ไม่ใช่น้อย
สาเหตุหลักก็คือ
เราไม่ได้มีโอกาสที่จะพูดคุยหรือสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เท่าที่ควร
จากปัญหาดังกล่าว จนท.รัฐ ทุกภาคส่วนได้ดำเนินการจัดทำโครงการต่าง ๆ
เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ และลดความวาดระแวง ระหว่าง จนท.รัฐ
กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เช่น สภาสันติสุข สภาสตรี กลุ่มพลังมวลชนต่าง ๆ
ซึ่งการปฏิบัติที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เริ่มมีความคิดไปในทางที่ดีกับ จนท.รัฐ การเสริมสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่
การรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ
การเข้าไปเยี่ยมเยียนพบปะพัฒนาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
จะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะนำพาให้สันติสุขเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น